วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551

วันที่ 04 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6580 ข่าวสดรายวัน
แคน-วงโปงลาง
คอลัมน์ รู้ไปโม้ด
น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com


อยากทราบประวัติของแคนครับ และวงโปงลาง วงดนตรีของอีสานต้องมีเครื่องดนตรีอะไรบ้าง
คนเหนือ
ตอบ คนเหนือ

ข้อมูลจากเว็บไซต์คลังปัญญาไทย ระบุว่า แคนเป็นเครื่องดนตรีที่เก่าแก่ของโลกชนิดหนึ่งจากหลักฐานทางโบราณคดีของจีนพบว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 2,400 ปี และยังเป็นเครื่องดนตรีที่นิยมแพร่หลายและกระจายอยู่หลายประเทศหลายกลุ่มชั้นทั้งในหมู่ชาวบ้าน และชาวเขา เช่นในประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย เป็นต้น 

เดิมทีเข้าใจว่าแคนจะเป็นแหล่งกำเนิดจากที่เดียวกันและมีชื่อเรียกอย่างเดียวกันเพียงแต่ออกเสียงต่างสำเนียงเชื้อชาติของตน เช่น ไทย เรียกว่า แคน ชาวแม้วเรียกว่า เก้ง จีนเรียกว่า ชะอัง เกาหลี เรียก แซง และญี่ปุ่นเรียก โซ ซึ่งอาจจะเรียกตามเสียงของเครื่องดนตรีนั้นๆ อย่างกรณีเสียงแคนของชาวอีสานจะได้ยินว่า แก่นแล่นแก่น หรือแค่นแลนแค่น เป็นต้น 

แคนทำจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้กู่แคน ไม้ประดู่ ไม้แดง มีลิ้นโลหะ เช่น ดีบุก เงิน หรือทองแดง บางๆ ประกอบไว้ในส่วนที่ประกอบอยู่ในเต้าแคน แคนหนึ่งอันเรียกว่า แคนหนึ่งเต้า

เกิดเสียงได้เพราะมีลิ้นโลหะติดอยู่ที่รอยเจาะข้างลำท่อลูกแคนลูกละลิ้น ลูกแคนแต่ละลูกมีระดับเสียงต่างกัน เพราะมีระยะห่างระว่างลิ้นกับรูแพวไม่เท่ากัน รูแพวคือรูเสียงเจาะไว้ 2 รู เหนือและล่างลูกแคน ลูกแคนของแคน 1 เต้า จัดไว้เป็น 2 แพ สอดเรียงไว้ในเต้าแคน ผนึกส่วนที่ฝังลิ้นไว้ในเต้าแคนมัดปลายแพลูกแคนที่โผล่ออกนอกเต้าทั้งด้านบนและด้านล่าง ด้วยตอกเครือหญ้านาง หรือตอกหวาย 

ข้างๆ เต้าแคนด้านบนมีรูปิดเปิดบังคับเสียง เวลาเป่าจะเป่าที่เต้าแคนด้านหน้า ใช้มือทั้งสองประกบจับเต้าแคนในลักษณะเฉียงเล็กน้อย 

แคนมีหลายขนาด เช่น แคนหก คือแคนที่จำนวนลูกแคนมีสามคู่ หกลำ เป็นแคนสำหรับเด็กเป่าเล่น เป่าได้เฉพาะเพลงง่ายๆ เพลงยากที่มีเสียงสูงต่ำหลายเสียงไม่สามารถเป่าได้ 

แคนเจ็ด คือแคนที่ประกอบด้วยลูกแคนเจ็ดคู่หรือสิบสี่ลำ มีเสียง 14 เสียง นิยมใช้เป่าเป็นแคนวง เพราะมีเสียงครบทั้ง 7 เสียง (โด เร มี ฟา ซอล ลา ที) 

แคนแปด คือแคนที่ประกอบด้วยไม้กู่แคนแปดคู่ หรือสิบหกลำ มีเสียง 16 เสียง ใช้เป็นแคนเดี่ยวสำหรับเป่าประสานเสียงคลอไปกับการร้องหมอลำ มีเสียงครบทั้ง 7 เสียงเหมือนแคน 7 แต่เพิ่มคู่ที่ 8 เข้าไปเป็นเสียงประสานให้เกิดความไพเราะมากยิ่งขึ้น เป็นต้น

สำหรับวงโปงลาง ข้อมูลจากชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

ชื่อโปงลางคาดว่าตั้งขึ้นมาจากเครื่องดนตรีที่ดังที่สุดในวงคือ โปงลาง แต่บางคณะ บางวง อาจจะไม่เรียกตัวเองว่า วงโปงลาง แต่ใช้ชื่อว่าวงแคน หรือวงพิณ ก็มี 

วงโปงลางในสมัยก่อน เป็นแบบพื้นบ้านจริงๆ ไม่มีเครื่องขยายเสียง ใช้เสียงสดๆ ของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น ซึ่งเครื่องดนตรีหลักๆ แบบเต็มวง ประกอบด้วย โปงลาง พิณโปร่ง (ชนิดที่มีกล่องเสียงใหญ่ๆ) แคน โหวด (เครื่องเป่า) ไหซอง (ยังไม่มีพิณเบส) กลองหาง (กลองยาวอีสาน) รำมะนา หรือกลองตุ้ม หมากกะโหล่ง (หมากป๊อกๆ) หรือใช้หมากกั๊บแก๊บ ฉาบเล็ก ฉาบใหญ่


หน้า 24

ไม่มีความคิดเห็น: